เมื่อวันที่ 1 ส.ค. ที่ผ่านมา มี่ได้มีโอกาสเข้าร่วม workshop ของทาง SHISEIDO ค่ะ กิจกรรมนี้ จัดขึ้นที่
ศูนย์ความงาม Shiseido Beauty Service Center บริษัท ชิเซโด้ (ไทยแลนด์) จำกัด (รามคำแหง 11)
REVU WORKSHOP & SHARE
หัวข้อ "The Magic of Makeup by SHISEIDO"
ห้องจัดกิจกรรมวันนี้ ไปที่ชั้น 2 ค่ะ...
เริ่มต้น
คุณบิ๊กได้กล่าวเปิดตัวเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ซีรีย์ใหม่ ชื่อว่า
WASO by SHISEIDO ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับคนที่มีผิวบอบบาง, แพ้ง่าย และพักผ่อนน้อย มีส่วนผสมของธรรมชาติ ช่วยให้ผิวนุ่ม ชุ่มชื้น แต่ไม่มีไขมันส่วนเกิน ไม่ทำให้ผิวเหนอะหนะ...บุคคลที่เหมาะกับ WASO คืออายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป ถึง 30 กว่าๆ เพราะพื้นฐานผิวของคนช่วงอายุนี้ยังดีอยู่ กล่าวคือ ถ้าเป็นคนผิวแห้ง คือผิวจะขาดน้ำ ใช้บำรุงแค่ผิวด้านบน แต่ผิวด้านล่างยังสามารถผลิตไขมันได้ดีอยู่ จึงฟื้นฟูได้เร็วค่ะ
หัวข้อหลักที่มีในกิจกรรมวันนี้ คือ...
• Basic Skincare Knowledge คอร์สดูแลผิวเบื้องต้น รู้ถึงองค์ประกอบ วิธีการดูแลผิวขั้นพื้นฐาน รวมไปถึงการปรนนิบัติผิวเพื่อเติมเต็มความต้องการของผิว
• Basic Makeup Technique คอร์สแต่งหน้าขั้นพื้นฐาน เติมเต็มความงามด้วยการสรรค์สร้างรูปลักษณ์ รู้จักการใช้นวัตกรรมความงามสอดประสานอย่างกลมกลืน
• Skin Analysis Corner มุมวิเคราะห์ผิว ด้วยเครื่อง Skin Visiom สามารถตรวจสอบผิวได้อย่างลึกซึ้ง ความล้ำสมัยแห่งเทคโนโลยีที่ตอบสนองความต้องการสภาพผิวแต่ละบุคคล ให้รู้จักเลือกสรรผลิตภัณฑ์อันเหมาะสม
• Advanced course คอร์สดูแลผิวพิเศษ เฉพาะผู้กังวลผิวเฉพาะจุด ด้วยเทคนิคการนวดหน้า และปรนนิบัติผิวอย่างถูกวิธี เพื่อลดเลือนริ้วรอยความหมองคล้ำ ฟื้นบำรุงให้ผิวสุขภาพดีไร้ริ้วรอย
• Point Makeup คอร์สแต่งหน้าเฉพาะจุด นำเสนอเทคนิควิธีให้คุณได้ลอง และรื่นรมย์กับการใช้สีสันของเมคอัพ
แก้ไขจุดบกพร่อง รังสรรค์ความงามแห่งตัวตนที่แท้จริงของคุณ
ก่อนเริ่มกิจกรรม จะมีใบประเมินสภาพผิวหน้าให้ทำก่อนค่ะ...
และแล้วก็ถึงช่วงเวลาทดลองผลิตภัณฑ์ค่ะ...ใส่หมวก และผ้ากันเลอะเรียบร้อย ^^
คุณนา วิทยากรที่จะมาสอนเราดูแลผิวและแต่งหน้าในวันนี้ค่ะ
มาเริ่มกันที่ตัวแรก จะเป็น
Eye & Lip Instantance ตัวนี้ก็เหมือน Eye & Lip Makeup Remover นั่นเองค่ะ เป็นของเหลว ใส ไม่มีกลิ่น ช่วยถนอมริมฝีปาก และดวงตา ใช้เช็ดทำความสะอาดดวงตา, คิ้ว และริมฝีปากค่ะ
Tips: เทคนิค คือ ใช้นิ้วกลางและนาง คีบสำลีไว้ จากนั้นเทผลิตภัณฑ์ลงตรงกึ่งกลางสำลีให้ชุ่มค่ะ จากนั้นวางบนเปลือกตา ให้น้ำซึมเข้าไปที่ make up แล้ว ลูบเบาๆ ออกทางด้านข้างค่ะ...
Tips: ส่วนการเช็ดริมฝีปาก ให้พับสำลี 1/3 แล้วไล่จากมุมริมฝีปากบน และล่างของแต่ละด้าน แล้วค่อยไปที่ริมฝีปากตรงกลางค่ะ...การเช็ดแบบนี้จะทำให้ปากอวบอิ่ม ชุ่มชื้น และมุมปากไม่ตกค่ะ...
**ควรทำสำลีให้ชุ่มไปเลยครั้งเดียว เพื่อที่จะล้างให้สะอาดใน 1-2 ครั้ง เพราะจะได้ไม่ต้องถูบ่อยๆ ดวงตาและปากจะได้ไม่ช้ำนะคะ**
ผลิตภัณฑ์ WASO ที่จะได้ทดลองใช้ตัวแรก คือ...
Quick Gentle Cleanser เป็นเจลล้างเครื่องสำอาง มีส่วนผสมหลักคือ
น้ำผึ้ง เป็นของเหลวเหนียวหนืด สีเหลืองเข้มข้น...เวลาเก็บให้วางค่ำขวดลง เพื่อให้ของเหลวไหลออกมาได้ง่ายตอนเปิดใช้ และสามารถใช้ได้จนหยดสุดท้ายค่ะ คุ้มค่าจริงๆ (150 ml, ราคา 1,100 บาท)
วิธีใช้: เทออกมา ประมาณ 1 ช้อนชา แต้ม 5 จุดบนใบหน้า นวดเบาๆ ให้ทั่วหน้า แล้วล้างออก หรือใช้ทิชชู่ซับ แล้วใช้ผ้าเปียกเช็ดออกได้ค่ะ ใช้ตอนที่หน้า และมือแห้งเท่านั้นนะคะ...ควรนวดเป็นเวลา 1-2 นาทีค่ะ เพราะความร้อนจากฝ่ามือจะทำให้ของเหลวนี้ซึมเข้าสู่ผิวได้ดีขึ้นค่ะ
*ทำไมถึงมีปริมาณการใช้เป็นช้อนชา ? เพราะ เริ่มแรกเดิมที บ.ชิเชโด้ เป็นบ. ผลิตยามาก่อน ทำให้เวลาใช้เครื่องสำอางต่างๆ มักจะมีหน่วยตวงการใช้ค่ะ
*คนที่เป็นสิว ก็ไม่ต้องกังวลไปค่ะ รักษาได้ง่ายๆ เพราะสาเหตุหลักของการเกิดสิวคือการล้างหน้าไม่สะอาด ถ้าหน้าสะอาดแล้ว สิวหดหาย ไม่มีมากวนใจแน่นอนค่ะ
เมื่อล้างเครื่องสำอางออกหมดแล้ว ต่อมาก็มาสครับหน้ากันค่ะ
Soft + Cushy Polisher เป็นสครับที่มีอนุภาคเล็กมากๆๆๆ ไม่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่า แต่สัมผัสได้ค่ะ ส่วนผสมหลัก คือ
เต้าหู้ กลิ่นหอม แนะนำให้ใช้ อาทิตย์ละ 2 ครั้ง ถ้าใครผิวแพ้ มีรอยแดง รอยสิว ใช้สัปดาห์ละ 1 ครั้งพอค่ะ...แต้ม 5 จุด โดยแต้มมากสุดบริเวณแก้ม เพราะมีพื้นที่เยอะสุดเลยค่ะ (75 ml, ราคา 1,200 บาท)
Tips: นวดให้ช้าที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพราะจะช่วยขจัดสิ่งสกปรกตามรูขุมขนออกมาได้ และไม่ทำให้หน้าเหี่ยวย่นค่ะ
ถ้าวันไหนไม่ได้สครับหน้าก็มาข้ามมาขั้นตอนนี้ได้เลยนะคะ...การใช้โลชั่นบำรุงผิว
Fresh Jelly Lotion เป็นโลชั่นของเหลวใส ที่มีส่วนผสมของ
เห็ดหูหนูขาว ที่สามาถเก็บความชุ่มชื่นได้นานถึง 24 ชม. (150 ml, ราคา 1,200 บาท)
วิธีใช้: วนมือให้ทั่วใบหน้า แล้วใช้มือโอบซับไว้ให้ทั่ว
เมื่อบำรุงผิวกันแล้ว ถ้าเป็นกลางคืน ก็จะมีบำรุงก่อนนอน
Clear Mega-Hydrating Cream ไนท์ครีมสำหรับคนผิวแห้ง เข้มข้นมากๆๆๆๆ คว่ำกระปุกแล้ว เจลไม่หกออกมาเลยค่ะ พิเศษตรงที่สามารถใช้ทาทับเมคอัพได้ด้วยนะคะ ช่วยให้ผิวชุ่มชื่น เหมาะมากกับคนที่ต้องนั่งเครื่องบินนานๆค่ะ (50 ml, 1,500 บาท)
Quick Matte Moisturizer Oil Free ไนท์ครีมสำหรับคนผิวมัน (75 ml, ราคา 1,500 บาท)
แต่เนื่องจากกิจกรรมวันนี้เราอยู่ตอนเช้า เราก็จะไปทาเบสกันต่อค่ะ มี 2 สูตรด้วยกัน คือ
1.
Color-Smart Day Moisturizer หลอดสีส้ม มีส่วนผสมของแครอท เหมาะสำหรับคนผิวแห้ง (50 ml, ราคา 1,500 บาท)
2.
Color-Smart Day Moisturizer Oil-Free หลอดสีเขียว มีส่วนผสมของ โรคอด เหมาะสำหรับคนผิวมัน (50 ml, ราคา 1,500 บาท)
**ตัวนี้เป็นนวัตกรรมใหม่ คือตอนแรก ครีมที่บีบออกมาจะสีขาว พอวนไปเรื่อยๆเปลี่ยนเป็นสีชมพูอ่ะ...คือมหัศจรรย์มากค่ะ ชอบ 555+**
ต่อมาก็ลงกันแดดกันค่ะ...กันแดดจะมีอยู่ด้วยกันหลายสูตรด้วยกัน มีสูตรสำหรับผิวแพ้ง่าย และเป็นเบส ช่วยปกปิด และอำพรางรูขุมขนด้วยค่ะ
หลังจากลงบำรุง และกันแดดทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว ก็จะมาแต่งหน้ากันค่ะ...เริ่มจาก Cushion มีให้เลือก 2 สูตร คือ
Glow (ตลับสีดำ) เนื้อบางเบา ให้ความมันวาว
White (ตลับสีขาว) เนื้อหนากว่า ช่วยในการปกปิด ฝ้า กระ จุดด่างดำ
ใครไม่ใช้ Cushion ก็ใช้รองพื้นได้ค่ะ มีให้เลือกหลายเฉดสี แบ่งออกเป็น 2 โทนสีหลัก คือ
G - Glow ทาแล้วสว่าง สีออกอมชมพู สีไล่ตั้งแต่ G2-G5
N - Natural ทาแล้วให้สีผิวธรรมชาติ สีไล่ตั้งแต่ N2-N5
มี่ใช้สี
G3 ค่ะ สีที่ให้ความสว่าง ผิวกลาง
แปรงที่ใช้ทารองพื้นเป็นของ SHISEIDO ทำจากขนหางม้า จะบอกว่า มันดีมากๆๆๆ เกลี่ยรองพื้นได้เรียบเนียน ไม่เป็นเส้น แต่เสียอย่างเดียว เล็กไปหน่อย ต้องเกลี่ยนานพอควรเลยค่ะ
Tips: การเลือกสีรองพื้นให้เข้ากับใบหน้า ทำได้โดยการแต้มสีรองพื้นที่แนวขากรรไกร (กลางคาง) เพื่อให้เห็นสีค่ะ
ถ้าใครมีจุดด่างดำที่ต้องปกปิด ก็สามารถเลือกใช้ Concealor กันเพิ่มได้ค่ะ มีสีตั้งแต่ 101-106 ค่ะ คอนซีเลอร์จะมีหัวด้านนึงเป็นแปรงในตัวด้วยเลย เริ่ดมากๆ ค่ะ
จากนั้น ทาแป้งฝุ่น Translucent เพื่อป้องกันไม่ให้หน้ามันระหว่างวันนะคะ
ใครที่ไม่ชอบการทารองพื้น สามารถเลือกแป้งตลับได้ เป็น แป้งสูตร Oil Free ค่ะ
มาเขียนคิ้วกันดีกว่า....อุปกรณ์เขียนคิ้ว มีด้วยกันหลายแบบค่ะ ไม่ว่าจะเป็น
ดินสอ, แบบตลับ, แบบ Duo สองหัว หรือมาสคาร่าปัดคิ้วก็มีค่ะ
มี่เลือกใช้แบบดินสอ และ แบบ Duo ค่ะ ใช้แบบตลับ มาไล้ให้มีสันจมูก...
Tips: เริ่มเขียนคิ้วจากจุดโก่งคิ้ว (กลางตาดำ) จากนั้นวาดปลายคิ้วเล็ก และหัวจางๆค่ะ
มาในส่วนสีกันบ้าง...เริ่มที่
Eye shadow ตัวที่ได้ใช้วันนี้เป็น
เนื้อครีมค่ะ สามารถใช้นิ้วทาได้เลย อายแชโดว์นี้ แบ่งเป็น 2 โทนด้วยค่ะ คือ Matte และ Shimmering ค่ะ
Tip: เวลาทาให้ตั้งหน้าตรง แล้วใช้นิ้วปัดขึ้นเพื่อให้ได้สีที่ชัดเจน และดวงตาไม่ช้ำค่ะ
ด้าน Blush On มีให้เลือก 4 สีด้วยกัน แต่ละสี แบ่งเป็นสี gradient 3 สี แยกออกเป็น สีอ่อน สีกลาง และสีเข้ม สามารถใช้ปัดรวม หรือเน้นเฉพาะส่วนได้ค่ะ
นอกจากนี้ยังมีไฮไลท์ที่สามารถปัดได้ทั้งหน้าด้วยค่ะ
สีงามมากๆ ค่ะ ^^
จากนั้นมากรีดอายไลเนอร์กันค่ะ ส่วนมากที่วันนี้เลือกใช้จะเป็น Gel liner นะคะ แต่ อายไลเนอร์แบบปากกา ก็มีเหมือนกันค่ะ
เมื่อมีตาแล้ว ก็มาดัดขนตา และปัดมาสคาร่ากันค่ะ
จบกันที่แต่งแต้มสีปากให้สดใส ด้วยลิปสติก Semi-Matte ไม่เยิ้ม ติดทน มี moisturizer ในตัว ไม่ต้องเม้มริมฝีปาก หรือซ้บเวลาทานะคะ เพราะสีของลิปจะถูกปรับให้เข้าปับสีปากค่ะ เป็นนวัตกรรมใหม่ของทาง SHISEIDO เลยค่ะ
และแล้วก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อยค่ะ ^^
ที่นี่เขามีบริการนวดหน้าด้วยนะ ใครสนใจสามารถติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้เลยค่ะ
ของที่ระลึกจากกิจกรรมในวันนี้
ความรู้สึกที่ได้ในวันนี้กับกิจกรรม REVU x SHISEIDO Workshop คือ รู้สึกดีใจ และสนุกมากๆที่ได้เข้าร่วมกิจกรรมนี้ เพราะนอกจากจะได้เรียนรู้วิธีการดูแลผิวแล้ว ยังได้เรียนรู้วิธีการแต่งหน้าอย่างถูกต้องด้วย เพราะการดูแลผิวเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยป้องกันให้ผิวของเราแลดูอ่อนวัยตลอดเวลาค่ะ ทุกขั้นตอนล้วนมีความสำคัญ และสัมพันธ์ซึ่งกันและกัน นอกจากนี้ ยังสามารถนำเอานวัตกรรมใหม่มาใช้กับการแต่งหน้าได้ด้วย เช่น เบสที่ใช้ปรับสภาพผิวหน้า มีนวัตกรรมในการเก็บรักษาคุณสมบัติของเบสเอาไว้ จนเราถู capsule ที่ใส่ส่วนผสมต่างๆถึงแตกออก แล้วซึมเข้าสู่ผิวค่ะ เป็นนวัตกรรมที่ amazing มากๆเลยค่ะ ^O^
+++ขอบคุณ REVU & SHISEIDO ค่ะ+++
Sponsored by
---------------------------------------------------------------
ติดตามผลงานของมี่ได้ทาง...
Comments
Post a Comment