Review: เจลทาแผลเป็นนูน Ultra Silicone Scar

Image
    นานมาแล้ว คุณแม่เคยถูกอุบัติเหตุตอนไปเที่ยว ตอนนั้นคุณแม่โดนลิงกัดที่หัวไหล่ ทำให้ทุกวันนี้ท่านยังมีรอยแผลเป็นนูนอยู่ตลอด เป็นปัญหาว่าจะใส่เสื้อแขนกุดไม่ได้เลย เพราะจะขาดความมั่นใจจากรอยแผลเป็นนูนที่เหลือทิ้งไว้ แม้ว่าเหตุการณ์จะผ่านมานานมากแล้วก็ตาม พอดีเราเห็นเจลลดรอยแผลเป็น เลยลองซื้อมาให้แม่ใช้ดู แล้ววันนี้จะมารีวิวว่าใช้แล้วเป็นยังไงบ้างค่ะ     เจลทาแก้รอยแผลเป็น VITARA Ultra Silicone Scar ( ไวทาร่า อัลตร้า ซิลิโคน สการ์ ) เป็นซิลิโคนเจลสำหรับแผลเป็นนูน หรือคีลอยด์ ช่วยให้แผลเป็นตื้น และนุ่มขึ้น พร้อมทั้งปรับสีของแผลเป็นให้สม่ำเสมอ มีส่วนผสมของวิตามินซี และวิตามินอี ช่วยลดเลือนรอยแผลเป็นให้ดูจางลง ไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ และน้ำหอม เนื้อซิลิโคนเจลกันน้ำ ผ่านการทดสอบทางผิวหนัง (dermatologically tested)      รอบกล่องมีรายละเอียดผลิตภัณฑ์อยู่ ปริมาณสุทธิ 9 กรัม วิธีใช้ : ทาเจลลงบนแผลเป็นนูน หรือคีลอยด์ และลูบบางๆ ไปในทิศทางเดียวกัน ประมาณ 2-3 นาที ทาวันละ 2 ครั้ง เช้า - เย็น ความรู้สึกขณะใช้ : เนื้อเจลเป็นแบบซิล...

All Day Look Make up ^O^

   สวัสดีค่ะ ทุกคน เข้าสู่ช่วงเทศกาลปีใหม่กันแล้ว งานรื่นเริงสังสรร มาตรึมค่ะ แต่พวกเราก็ยังคงต้องทำงานอยู่นะคะ...ดังนั้น make up look วันนี้ที่มี่จะแนะนำคือ ลุคที่สามารถแต่งแค่ตอนเช้า แต่อยู่ปาตี้ต่อได้ตลอดวันเลยค่ะ

   ลักษณะเด่นของลุคนี้คือ เน้นดวงตาที่เข้มนิดนึง เพื่อให้ไม่หนักเกินไปสำหรับช่วงเช้าที่ทำงาน และไม่น้อยเกินไปสำหรับช่วงเย็นที่ไปเที่ยวต่อนะคะ


วิธีการแต่งไม่ยากค่ะ มาเริ่มที่ขั้นตอนแรกกันเลยค่ะ....>>>

Step 1: Prepare your skin 

เตรียมผิวให้พร้อม มี่เลือก รองพื้น Double Water ของ Estee Lauder เพราะตัวนี้เป็นเนื้อลิคขวิด บางเบา ปกปิดได้ดีระดับหนึ่ง และไม่หนามากค่ะ ส่วนแปรงที่ใช้ คือ แปรงรองพื้นสำหรับ เนื้อลิคขวิด I.I The Ultimate Foundation Brush ของ Brushwork (BW) ค่ะ

Step 2: Smoothen Skin

เมื่อเตรียมผิวในขั้นตอนแรกแล้ว ก็มา เพิ่มความเนียน ใสให้ใบหน้า ด้วย Concealor ของ Sephora โดยเลือกสีที่อ่อนกว่ารองพื้นที่ใช้ แล้วเน้นบริเวณใต้ดวงตา ยาวมาถึงพวงแก้มค่ะ มี่ใช้ ฟองน้ำของ Daiso ในการเกลี่ยให้เนียนค่ะ จากนั้น ลงแป้งฝุ่น Translucent ของ Laura Mercier เพื่อให้หน้าไม่มันระหว่างวันค่ะ


Step 3: Draw your brows

หลังจากที่เตรียมผิวหน้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็มาแต่งคิ้วกันค่ะ ดัดขนตา ของ Shu ชอบตัวนี้ เพราะนิ่ม ไม่ทำให้ขนตางอ ดัดแล้วไม่เจ็บด้วยค่ะ ส่วนคิ้ว มี่เขียนโครงร่างก่อน ด้วย ดินสอเขียนคิ้วสีน้ำตาลเข้ม ของ Shiseido แล้วระบายด้านในด้วยเนื้อครีม ของ Benefit Brow kit จากนั้นใช้แปรงของ BW X.I : Brow Shaper ในการทำให้คิ้วดูเป็นธรรมชาติขึ้น โดยใช้เนื้อฝุ่นในตลับของ Benefit เหมือนกันค่ะ

Benefit Brow Kit ตัวนี้ จะมี 2 ช่อง คือ ด้านที่เป็น เนื้อครีม สีน้ำตาลเข้ม และ ด้านที่เป็นเนื้อฝุ่น สีน้ำตาลอ่อน ค่ะ พาเลตตัวนี้มีหลายเฉดสีนะคะ สามารถเลือกสีตามที่ต้องการได้เลยค่ะ


Step 4: Colour your eyes

เมื่อแต่งคิ้วกันเรียบร้อยแล้ว ก็ถึงขั้นตอนแต่งตาค่ะ มี่เลือกใช้ Naked 2 โทนสีน้ำตาล เพราะเป็นโทนที่ใช้ได้ในทุกสถานการณ์เลยค่ะ

ในขั้นตอนนี้จะใช้ แปรงทาตา 3 ตัวด้วยกันคือ ...

V.I: The Shadow Applicator ตัวนี้จะใช้ระบายสี อายแชโดว์ที่เปลือกตาก่อน
V.II The Shadow Pointer ตัวนี้ใช้สำหรับคัดเบ้า บริเวณเปลือกตา
V.III The Crease Blender ตัวนี้ใช้เบลนสีให้เข้ากัน บริเวณที่พับเปลือกตาค่ะ

แต่ก่อนมี่ไม่เคยใช้แปรงทาตาเลย ใช้นิ้วตลอด เพราะคิดว่า มันสะดวก แล้วก็ได้ลุคที่เป็นธรรมชาติดี แต่........หลังจากที่ได้ลองใช้แปรงของ BW รู้เลยว่า ที่ผ่านมา เราคิดผิดนะเนี่ย 555+ สีเปลือกตาบางทีเป็นชั้นๆ ไม่เนียนเลย ต่างจากเวลาใช้แปรงเบลนมากค่ะ 

หลังจากที่ได้ลองใช้แปรงของ BW แล้ว รู้สึกชอบมาก เพราะว่า ขนที่เลือกใช้ ไม่ได้เหมือนกันทุกแปรงนะคะ ถ้าเป็นตัว V.I และ V.II จะใช้ขนสัตว์ Sable เพราะจะสามารถหยิบจับ pigment สีได้ดี แต่ถ้าเป็น V.III จะใช้ขนแพะภูเขา ซึ่งมีความอ่อนนุ่ม บางเบา ใช้ในการเกลี่ย pigment ต่างๆไม่ให้จับตัวกันได้ดีค่ะ ^^

ลุคของตาในวันนี้ จะเน้นโทนสีน้ำตาลเข้ม แต่ไม่ถึงกับ smoky eye เพื่อให้คงความสุภาพในการทำงานไว้ค่ะ โดยที่บริเวณเบ้าตาจะเป็นสีน้ำตาลเข้ม ไล่เป็นน้ำตาลอ่อน และหัวตาสว่างค่ะ


Step 5: Liner & Mascara

หลังจากที่แต่งตาเรียบร้อยแล้ว ต่อมาก็กรีดอายไลเนอร์ และปัดมาสคาร่า ติดขนตาค่ะ

อายไลเนอร์ที่ใช้ คือ มิสทิน One Line ตัวใหม่ล่าสุดของซีรีย์ อายไลเนอร์ ตัวนี้โฆษณาว่า เขียนได้ทั้งเส้นหนา เส้นบาง เลยค่ะ หลังลองใช้รู้สึกว่า น้ำหมึกไม่ดำมาก แล้วก็ดูจะแห้งๆค่ะ

มาสาคาร่า สีดำของ Too Face ตัวนี้ หัวแปรงหนา ปัดแล้วขนตาหนาเลย ปัดไม่กี่ที ขึ้นเลยค่ะ ตัวนี้ชอบเหมือนกัน เพราะปกติมี่เป็นคนขนตาบางค่ะ

Step 6: Blush with II.II

ขั้นตอนสุดท้าย คือการเติมสีสันให้พวงแก้มค่ะ มี่เลือกใช้ บลัชโทนชมพู ของ Laura Mercier ชอบบลัชตัวนี้ เพราะ มี 4 สีใน 1 พาเลต เวลาใช้คือปัดวนรวมค่ะ สีที่ได้ก็จะไม่เข้มมาก และถ้าอยากได้ โทนอ่อน ก็เลือกปัดเฉพาะสีอ่อนได้ค่ะ ส่วนแปรงที่ใช้คือ II.II The Blush Brush ค่ะ

เท่านี้ก็เสร็จเรียบร้อย สำหรับ All Day Look นะคะ



เพื่อนๆที่เข้ามาอ่านแล้ว มาแชร์ความคิดเห็นกันนะคะ

++ขอบคุณที่เข้ามาอ่านค่ะ++


Comments

Popular posts from this blog

พาชมโรงงานผลิตสบู่ ครีม เครื่องสำอาง สกินแคร์ OEM ครบวงจร WISE PLUS GROW

รีวิว Roomba Combo i5 หุ่นยนต์ดูดฝุ่นและถูพื้น “แค่สลับถังก็ถูพื้นได้ทันที”

Review: ครีมกำจัดขน me