Review: MD Formula P.H.D. Professional Brightening Serum from the UK

Image
Personally, I have a serious issue with dark spots on our face, which is a significant concern for us. Due to having thin-layer and sun-sensitive skin, dark spots have formed and I am worried more about melasma formed, which may be a serious concern in the future. So, I decided to find a product to address this issue. Today, I will review how the product I have been using worked and what the results I have been achieved. MD Formula P.H.D. Professional For the MD Formula Brightening Serum, the key ingredients that emphasize clarity are Tranexamic Acid 2.5% and Niacinamide 4%. - Tranexamic Acid is an effective brightening agent. In MD Formula, it is used at a concentration of 2.5% to balance the skin and reduce dark spots. - Niacinamide helps tighten pores and improves skin tone. Let's talk about how these two main ingredients work together. This is a strong point of this product because Tranexamic Acid not only reduces dark spots but also inhibits the formation of melasma. Its main

ปฎิบัติการณ์เข็มครองเมือง!!! APHRODITE No.1 Organic Skincare

   ในวันศุกร์ที่ 26 ม.ค. ที่ผ่านมา มี่มีโอกาสได้ไปงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ของแบรนด์ออแกนิคเมืองไทยจะเป็นอย่างไร ไปชมกันค่าาา

APHRODITE
"ปรากฏการณ์เข็มครองเมือง"

   งานนี้จัดขึ้นที่ Audrey Thonglor Soi 11 บรรยากาศภายในงานตกแต่งเป็นโทนทอง-ดำค่ะ ไปชมบรรยากาศภายในงานกันค่ะ....น้องอร Onnbaby คนสวย มาเป็นพิธีกรด้วย ^^






   เริ่มแรก คุณเนม CEO ของแบรนด์ ได้ขึ้นมาเล่าที่มาของแบรนด์นี้ให้ฟัง...เนื่องจากคุณแม่ของคุณเนม ท่านเป็นคนรักษาสุขภาพมาก ทั้งออกกำลังกาย และทานอาหารที่มีประโยชน์ แต่ท่านก็เป็นมะเร็ง เนื่องจากชอบนั่งรถเมย์ สภาวะแวดล้อมเป็นพิษ ทำให้คุณเนมเกิดความรู้สึกที่ว่า อยากจะป้องกันให้ตัวเองในทุกๆด้าน รวมถึงกับเคยลองศัลยกรรม และเข้าคอร์สความงามมาหลายรูปแบบ รู้สึกว่าเจ็บตัว อยากหาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ทั้งในเรื่องความงามและปลอดภัย จึงคิดค้นเครื่องสำอาง ออแกนิค 100% ขึ้นมา จึงทำให้เกิด สกินแคร์ APHRODITE ที่ถือได้ว่าเป็นสกินแคร์ออแกนิค อันดับ 1 ของไทยเลยค่ะ ^^

   คุณเนมยังเล่าอีกว่า เครื่องสำอางที่เป็นออแกนิค แท้จริงแล้วต้องเป็นอย่างไร...ผลิตภัณฑ์สกินแคร์ที่เป็นออแกนิค (Organic) นั้น ต่างจาก ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ (Natural) คือ...
  •  สารสกัดที่นำมาผลิตสกินแคร์ ต้องปลูกในดินที่ไม่มีปุ๋ย หรือ สารเคมี และต้องอยู่ในดินถึง 3 ปี
  • ฟาร์มที่ปลูกส่วนผสม และสารสกัด จะต้องอยู่ห่างอุตสาหกรรม 25 กม.
    จากข้อจำกัดเหล่านี้ ทำให้ APHRODITE เลือกที่จะนำเข้าสารสกัดจาก ต่างประเทศ เพื่อให้ได้มาตรฐานตามที่ อย. กำหนดค่ะ...พอพูดถึง อย. คุณเนมก็ได้ชี้แจงให้เราฟังค่ะว่า การที่ อย.จะยอมรับให้สกินแคร์เป็น Organic Skincare ได้นั้น ต้องผ่านมาตรฐานอะไรบ้าง
1. ส่วนผสมต้องมี ส่วนผสมที่เป็น Organic 95 % อีก 5% ที่เหลือ คือ น้ำ และต้องไม่ใช่สารเคมีอันตราย เช่น สารปรอท หรือ ไฮโดรควิโนน
2.ใช้สารสกัด Organic ในอัตรส่วน 75-95% ของส่วนผสมทั้งหมด
3. มีส่วนผสม Organic น้อยกว่า 75% ไม่เรียกว่าเป็น ผลิตภัณฑ์ Organic

   จะเห็นได้ว่า สกินแคร์ที่เป็นออแกนิคนั้น จะมี Certificate แต่อย. ไม่ให้ใช้ในเชิงพาณิชย์นะคะ สามารถเอามาแนะนำให้ความรู้ได้เพียงอย่างเดียว เราจึงไม่เห็น Certificate ที่กล่องผลิตภัณฑ์ค่ะ

จุดเด่นของ APHRODITE ที่นอกจากจะเป็น Organic Skincare แล้ว ยังไม่มีส่วนผสมของ สเตียรอยด์, ไฮโดรควิโนน, พาราเบน (สารกันบูด), แอลกอฮอล์ และน้ำหอมค่ะ เรียกได้ว่า ปลอดภัยขนาดคุณแม่ที่ตั้งครรภ์อยู่สามารถใช้ได้เลยค่ะ...บางคนอาจสงสัยว่า ไม่ใส่น้ำหอม แล้วครีมจะหอมไหม จะใช้ได้รึป่าวนะ ไม่ต้องห่วงค่ะ APHRODITE เขาใช้ Essential Oil กลิ่น Sakura เป็นสารให้ความหอมค่ะ


     เมื่อรู้จักพื้นเพของแบรนด์แล้ว ทีนี้มาดูตัว producte กันบ้างดีกว่านะคะ....
ผลิตภัณฑ์มีอยู่ด้วยกัน 4 ตัว และทุกตัวทำออกมาในรูปของเข็ม นั่นจึงเป็นที่มาของ event นี้ค่ะ "ปฏิบัติการเข็มครองเมือง"...
1. Age Renewal Gold Pearl Stem Cellular Concentrate (Gold Pearl) จะเห็นได้ว่าชื่อน้องๆเค้ายาวกันมากๆเลย จะขอเรียกเป็นชื่อเล่นในวงเล็บนะคะ ตัวนี้เปรียบเสมือนยาสามัญประจำบ้านเลยก็ว่าได้ เพราะมีคุณสมบัติในการ detox สารเคมีลึกถึงชั้น hypodermis (ผิวหนังชั้นล่างสุด) ซึ่งช่วยขับสารเคมีออกมาจดหมด เหมาะกับคนผิวแห้งกร้าน, รูขุมขนกว้าง, หลุมสิว, แต่งหน้าไม่ติด, ผิวแพ้ง่าย แพ้สารเคมี และผิวติดสเตียรอยด์ ใช้ stem cell ถึง 15 ชนิด...

    เนื้อสัมผัสเป็นเซรั่มใส มีไข่มุกทองคำอยู่ด้านในหลอดด้วยค่ะ ทาแล้วผิวชุ่มชื้น มีกลิ่นหอมค่ะ


2. Premium Lift Up Shaping Contouring Serum (V-Shape) ตัวนี้เอาไว้เหลาเหนียงเลยค่ะ เหมาะสำหรับคนที่มีคาง 2 ชั้น, แก้มยุ้ย และอยากกำจัดส่วนเกินของไขมันออก เพราะ V-Shape จะช่วยสลายไขมันได้ โดยใช้สารสกัดของพืชจากป่าอะเมซอน...การที่คนเรามีแก้ม นั่นเพราะไขมันไปอุดตัน ทำให้เกิดถุงน้ำ จึงทำให้หน้าบวมได้ค่ะ นอกจากนี้ V-Shape ยังเหมาะกับคนรูปหน้าผิดรูป หรือหน้าไม่เป็นทรง และอยากมีกรอบหน้า อยากหน้าเรียว ใช้ตัวนี้ไม่ผิดหวังแน่ๆค่ะ

    กล่องจะเป็นสีโทนส้ม...เนื้อเซรั่มใส สีออกส้มค่ะ กลิ่นหอม ทาแล้วผิวชุ่มชื้นมาก



3. Stem Cellular Advance Repair Lifting Serum (Lifting) เหมาะกับคนที่ชอบ DETOX ดีท็อกซ์คือหยุดการทำงานของกล้ามเนื้อ แต่ไม่สามารถเข้าถึงทุกพื้นที่ของผิว ในทางตรงกันข้าม Lifting ของ Aphrodite สามารถซึมเข้าสู่ผิวได้ถึงชั้นในสุด (hypodermis) ทำให้ออกฤทธิ์ได้ดีกว่า จึงเห็นผลตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้เลยค่ะ ตัวนี้จะช่วยยกกระชับได้ทั่วใบหน้า รวมถึงตีนกา, fineline และริ้วรอยใต้ตาได้ด้วยค่ะ

    เนื้อเซรั่มออกเป็นสีโทนฟ้า เหมือนสีกล่องค่ะ...วิธีใช้ คือ ทาทั่วใบหน้าก่อน 1 รอบ จากนั้นเน้นทาเฉพาะจุดอีกครั้ง


4. Hyperpigmentation DNA CoFactor Super Whitening Concentrate (Super White) ตัวนี้จะต่างจาก 3 ตัวแรกที่เป็นเนื้อเซรั่ม เพราะ น้องเป็นเนื้อครีมค่ะ และสามารถทำงานได้ถึงชั้นผิว Dermis ซึ่งเป็นผิวชั้นกลาง ทั้งนี้เพราะ Super White มีจุดประสงค์หลัก คือ ช่วยให้หน้าขาวใส, ลดรอยสิว, ยับยั้งการเกิดฝ้า กระ จุดด่างดำ ซึ่งต้องไปยับยั้งการทำงานของเม็ดสี ซึ่งอยู่ในชั้น Dermis นั่นเองค่ะ ตัวนี้จะใช้สารสกัดของ Gigawhite นำเข้าจากประเทศ Switzerland โดยใช้ new technology ในการ lock DNA ไม่ให้ผิวกลับมาเฉดสีเดิม  นั่นหมายความว่า ถ้าผิวขาวขึ้นแล้วก็จะไม่กลับมาดำอีกด้วย... ทาต่อเนื่อง 28 วัน! ผิวจะขาวขึ้น 1 ระดับค่ะ นอกจากใบหน้าแล้ว ยังสามารถใช้ Super White ในบริเวณที่ต้องการให้ขาวขึ้นได้ด้วย เช่น รักแร้, ง้ามตูด, หัวนม, ศอกคอ, ขาหนีบ ฯลฯ

    เนื้อเซรั่มจะเป็นครีมสีออกชมพูน้อยๆ อยู่ในกล่องโทนสีชมพู...วิธีใช้ คือ ทาเช้า-เย็นค่ะ


    หลังจากเรียนรู้ตัวผลิตภัณฑ์แล้ว ก็มีพักเบรกให้ทานขนมว่างกันค่ะ

    หลังทานขนม เราก็เข้าสู่ช่วงที่ 2 ของงาน นั่นคือ มีวิทยากรรับเชิญ (คุณนิว) มาสาธิตการนวดหน้าให้ชมกันค่ะ เป็นการนวดบำบัดที่ทำให้การไหลเวียนของเลือดดี พอข้างในเราดีแล้ว ก็ส่งผลดีออกมาภายนอกค่ะ ผลที่ทำให้กรี๊ดกร๊าดมากที่สุดคือ นวดแล้ว หน้าเล็กลง ตาโตขึ้น โดยไม่ต้องพึ่ง big eye หรือ botox เลยค่ะ ยิ่งถ้าใช้ V-Shape ของ APHRODITE ควบคู่กันกับการนวดแล้วนั้น จะยิ่งเห็นผลเร็วยิ่งขึ้นค่ะ


   มางานเปิดตัวแบบนี้ ก็มีรางวัลแจกกันด้วยนะคะ ซึ่งผู้โชคดีจะได้รับทอง! กลับบ้านด้วยค่ะ ทั้งนี้คุณเนม CEO ได้คัดเลือกผู้โชคดีจากการโพสรูปตาม Social Network ต่างๆ...และนี่คือโฉมหน้าของผู้โชคดีในวันนี้ค่ะ

   ก่อนกลับบ้านวันนี้ก็ได้รับผลิตภัณฑ์กลับบ้านมาลองใช้ ตามปัญหาผิวด้วยค่ะ เนื่องจากมี่เป็นคนผิวแพ้ง่าย และมีจุดด่างดำ จึงได้ Gold Pearl และ Super White มาลองใช้ค่ะ ซึ่งหลังจากที่ได้กลับมาลองใช้แล้วก็จะนำมารีวิวให้ทุกคนได้ชมกันนะคะ


   มาดูกันที่ packaging กันก่อนเลย กล่องกระดาษ มีพลาสติกซีนมาอย่างดี






   เมื่อเปิดกล่อง จะเจอผลิตภัณฑ์ที่อยู่ในรูปของเข็มค่ะ






   มีปุ่มล็อก ป้องกันการเปิด-ปิดด้วย และมีฝาปิดหัวเข็มป้องกันสิ่งสกปรกด้วยนะคะ


   ที่ปลายหลอดจะมีฝาปิดอยู่บริเวณหัวฉีดด้วยนะคะ



  ตัว Gold Pearl จะเป็นเนื้อเซรั่ม ในหลอดมีเหมือนไข่มุกสีทองบรรจุอยู่ ส่วน Super White จะเป็นเนื้อครีม เนื้อเข้มข้นสุดๆค่ะ

"Gold Pearl"




"Super White"




   ความรู้สึกขณะใช้ คือ เนื้อเซรั่ม และเนื้อครีมมีความเข้มข้นสูงมาก กดออกมาปริมาณเล็กน้อย ก็สามารถทาได้ทั่วใบหน้าแล้วค่ะ กลิ่นหอมแรงมากค่ะ


   ความรู้สึกหลังใช้ คือ หน้าดูขาว กระจ่างใส รอยแดงดูจางลงด้วย ผิวดูสุขภาพดีขึ้นค่ะ ^O^

   อยากจะขอบคุณแบรนด์ APHRODITE ที่ได้มอบความรู้ และผลิตภัณฑ์ดีๆมาให้นะคะ ได้ความรู้เรื่องสกินแคร์ออแกนิคมากๆเลยค่ะ ^O^




ข้อมูลเพิ่มเติม:

++++ ขอบคุณที่เข้ามาชมกันค่ะ ++++
--------------------------------------------
ติดตามผลงานของมี่ได้ทาง...
IG: miieiie
Youtube: miieiie1
Twitter: miieiiem


Comments

Popular posts from this blog

Review: สบู่ Asepso (อาเซปโซ) สูตรออริจินัล

Review: VISTRA IMU-PRO C Acerola Cherry 2000 Plus

Gianni Ristorante ร้านอาหารอิตาเลี่ยนคุณภาพ ^^