เดี๋ยวนี้ใครๆก็ออกกำลังกาย เพราะทุกคนเริ่มหันมาสนใจสุขภาพกันมากขึ้นใช่ไหมคะ วันนี้มี่เลยจะมารีวิวผลิตภัณฑ์ที่เป็นตัวช่วยให้เรามั่นใจในสุขภาพของเรามากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะผู้ใหญ่ที่อายุมากขึ้น การทำงานของหัวใจ และความดันเป็นเรื่องที่สำคัญมากๆ ต้องคอยวัด และติดตามตลอด เพราะเหตุไม่คาดคิดอาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ คุณพ่อของมี่ชอบออกกำลังกายมาตั้งแต่วัยรุ่น และดูแลสุขภาพมาตลอด แต่ใช่ว่าการดูแลสุขภาพสม่ำเสมอ จะไม่ทำให้เกิดโรคได้ เนื่องจากออกกำลังกายหนักจนเกินไป ทำให้คุณพ่อมีหัวใจโต ใหญ่กว่าปกติ และตอนนี้เมื่ออายุมากขึ้น ก็มีโรคความดันสูงเพิ่มเข้ามาด้วย... วันนี้ผลิตภัณฑ์ที่มี่จะรีวิวจะเป็นตัวช่วยสำคัญที่คอยวัดทั้งคลื่นหัวใจ และความดันให้กับคุณพ่อได้ตลอดเวลา เกริ่นมาขนาดนี้ น่าใสใจมากเลยใช่ไหมคะ ว่าแล้วเราไปดูกันเลยดีกว่าค่า ^^
XFIT PRO นาฬิกาวัดความดัน-วัดคลื่นไฟฟ้าหัวใจ
นาฬิกา XFIT PRO เป็นนาฬิกา Smart watch เหมาะสำหรับคนที่รักสุขภาพ สามารถใช้ได้หลายฟังก์ชั่น
จุดเด่นของเค้าเลย คือสามารถวัดความดัน และวัดคื่นไฟฟ้าหัวใจได้ ซึ่งเป็นนาฬิการัดข้อมือแบรนด์แรกเลยนะที่ทำได้ WoW เรียกได้ว่า เป็นสายรัดข้อมือ เพื่อสุขภาพอย่างแท้จริง
XFIT PRO รีวิว วันนี้จะมาพูดถึงคุณสมบัติของนาฬิกาอัจฉริยะตัวนี้ พร้อมทั้งสาธิตการทำงานให้ชมกันนะคะ...XFIT PRO นาฬิกาวัดคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (EKG) และวัดความดัน อัจฮริยะ รุ่นนี้เหมาะกับผู้ที่มีโรคประจำตัว อย่างความดันโลหิตสูง หรือผู้ที่มีความเสี่ยงของการทำงานหัวใจที่ไม่ปกติ
คุณสมบัติ และฟังก์ชั่นการทำงานของ XFIT PRO
- วัดคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (EKG) ได้แบบเรียลไทม์ โดยแสดงผลผ่านแอพพลิเคชั่นมือถือ ที่เรียกว่า ME CARE (สามารถดาวโหลดได้ทั้ง ios และ Android) และเมื่อวัดเสร็จ จะแปลผลออกมาด้วยว่า กล้ามเนื้อหัวใจของเราปกติหรือไม่ หรือมีส่วนไหนที่น่าสงสัยว่าผิดปกติ
- ใช้ระบบเซ็นเซอร์การวัด 3 แกน ทำให้การวัดมีความแม่นยำมากถึง 95% (sensor 2 ตัวอยู่ด้านหลัง และอีกตัวอยู่ด้านข้าง)
- วัดความดันได้แบบเรียลไทม์ โดยสามารถวัดจากนาฬิกาได้เลย ไม่ต้องผ่านแอพมือถือ
- วัดชีพจรได้แบบเรียลไทม์ โดยสามารถวัดจากนาฬิกาได้เลย ไม่ต้องผ่านแอพมือถือเช่นกัน
- วัดประสิทธิภาพการนอนหลับ สามารถดูได้ว่าหลับลึก หรือหลับตื้น
- เก็บข้อมูลผ่านแอพพลิเคชั่น ชื่อว่า ME CARE (รองรับทั้ง ios และ Android)
- ใช้งานง่ายด้วย คู่มือภาษาไทย
- กันน้ำได้ แต่ไม่แนะนำให้ใส่ว่ายน้ำ (IP67 กันน้ำได้ลึกสูงสุด 1 เมตร นานสุด 30 นาที)
- ครอบคลุมโหมดกีฬาพื้นฐาน 3 ชนิด คือ วิ่ง ปั่นจักรยาน และยกน้ำหนัก
- นับก้าว-ระยะทางได้ พร้อมแสดงการเผาผลาญพลังงานต่อวัน ซึ่งเราสามารถตั้งเป้าหมายก้าวเดินในแต่ละวันได้ด้วยผ่านแอพพลิเคชั่นมือถือ
- มีการแจ้งเตือนสายเรียกเข้า และ SMS
- หน้าจอ Touch Screen
- เป็นนาฬิกาปลุก สามารถเลือกตั้งปลุกได้มากถึง 5 เวลา
มาดู Packaging กัน ตัวนี้มาในกล่องกระดาษแข็งสีขาว ด้านหน้ามีรูปนาฬิกา ส่วนด้านหลังบอกคุณสมบัติหลักของนาฬิกา รวมถึง QR Code ที่เอาไว้สแกนโหลดแอพพลิเคชั่น ME CARE ด้วย
เมื่อเปิดกล่องออกมา จะเจอ "คู่มือการใช้งานภาษาไทย" อ่านเข้าใจง่าย แม้ไม่เคยใช้นาฬิกา Smart watch มาก่อน ก็สามารถทำความเข้าใจได้ง่ายค่ะ
ถัดมาจะมีตัวนาฬิกาใส่อยู่ในถุงพลาสติกสีขาว...
นาฬิกาวัดความดัน XFIT PRO มีหลายสี (ดูที่แถบคาดตรงกลาง) สีที่มี่ได้มารีวิว เป็นสีน้ำเงินค่ะ หน้าจอ touch screen ดีไซน์ทันสมัย...ตัวสายเป็น TPU ชนิดพิเศษ มีความยืดยุ่น และกันน้ำ กันเหงื่อ ตัวเครื่องเป็น 361L อลูมิเนียม นอกจากนี้ยังสามารถปรับระดับของสายได้มากถึง 13 ระดับด้วย...ข้อมือใหญ่/เล็ก ใส่ได้แน่นอนจ้า
สิ่งที่ต้องทำก่อนการใช้งาน
1. ชาร์จแบตให้กับนาฬิกา XFIT PRO โดยหงายด้านล่างของนาฬิกาขึ้น จะเห็นสัญลักษณ์ USB ให้เราค่อยๆดึงสายตรงส่วนนี้ออก...จะพบกับหัวเสียบ USB ให้ต่อเข้ากับที่ชาร์จมือถือ แล้วเสียบชาร์จกับไฟบ้านได้เลยค่ะ การชาร์จควรไม่น้อยกว่า 2 ชั่วโมงนะคะ...ตัวแบตมีความจุ 100 mAh สามารถใช้งานต่อเนื่องได้ 3-5 วัน (กรณีต่อ Bluetooth) และใช้งานได้ 5-14 วัน (แบบไม่เชื่อมต่อ Bluetooth)
2. ดาวโหลดแอพพลิเคชั่น ME CARE เพื่อเก็บผลการทำงานของนาฬิกา
เรามาดูวิธีการดาวโหลด Application "ME CARE" กันนิดนึง...มี่ใช้ Android สามารถเข้า Google Play แล้ว search ว่า ME CARE ก็จะพบแอพพลิเคชั่น ทำการดาวโหลด เท่านี้ก็เรียบร้อยค่ะ
Application นี้รองรับกับ Android 4.3 ขึ้นไป หรือ IOS8.0 ขึ้นไป
พอเข้าแอพ ให้เรากด "Jump" เพื่อเข้าใช้งาน แต่ถ้าใครอยากเป็นสมาชิก ก็สมัครได้นะ โดย Serial Number สามารถดูได้จากตัวนาฬิกา กดปุ่มไปเรื่อยๆ จะมีหน้า Serial Number ของเครื่องโชว์ขึ้นมาค่ะ
ตัว Application จะแบ่งหน้าจอออกเป็น 3 ส่วนด้วยกัน ได้แก่ Dashboard (บ้าน), Running (โหมดออกกำลังกาย) และ Setting (การตั้งค่า)
- Dashboard คือหน้าแรกที่พอเข้าแอพมาจะเจอหน้านี้เลย เปรียบเสมือนหน้าสรุปของการแสดงผลต่างๆที่วัดจากนาฬิกา XFIT PRO...ช่องแรกสุดบอกถึง Target ก้าวเดินในแต่ละวัน, ช่องต่อมา คือ Steps แบ่งเป็นการเผาผลาญพลังงาน (Kcal) - ระยะทาง (Distance) - และก้าวเดิน (Steps), ช่องต่อมาคือ Sleep บอกถึงจำนวนชม. และนาทีที่เรานอนต่อวัน, ต่อมา HR บอกถึงอัตราการเต้นของหัวใจ
- Running คือหน้าที่บอกเกี่ยวกับการออกกำลังกาย สามารถเลือกได้ 3 โหมด คือ วิ่ง, ปั่นจักรยาน และยกเวท
- Settings คือหน้าเกี่ยวกับการตั้งค่าต่างๆ ในหน้านี้เราสามารถแก้ไขข้อมูลส่วนตัว และ target ที่เราตั้งต่อวันได้
ก่อนจะไปดูถึงวิธีการใช้งาน เรามาดูที่ตัวนาฬิกา XFIT PRO กันนิดนึงค่ะ ตัวนาฬิกาสามารถทำหน้าที่ได้หลายอย่างเลย...
เมื่อกดปุ่มเปิดนาฬิกา หน้าแรกของเค้าจะแสดง "เวลา, วันที่ และแบตเตอรี่" (ไม่ต้องกดปุ่มเปิดก็ได้ แต่แค่ยกนาฬิกาขึ้นมาดู มันก็เปิดหน้าจออัตโนมัติได้นะ เจ๋งไหมหละ ^^)
กดปุ่มอีกครั้งจะเป็น "ภูมิอากาศ" บอกองศาที่วัดได้ตอนนี้
กดปุ่มอีกครั้งจะเป็นรูปรองเท้า อันนี้หมายถึง "จำนวนก้าว" ที่วัดได้
จากนั้นกดปุ่มอีกครั้ง จะเปลี่ยนไปหน้า "ระยะทาง" บอกถึงระยะว่าเราเดินไปกี่ km แล้ว
หน้าต่อไปจะเป็นโหมด "Runing" หน้านี้ ถ้าเราเชื่อมกับแอพตอนวิ่ง จะแสดงผล เวลาในการวิ่ง, ระยะทาง และheart rate (HR) โดยที่ขณะวิ่งเราจะเปลี่ยนหน้าจอไม่ได้ค่ะ
กดหน้าถัดมา จะเป็นหน้าวัด "ความดัน" ซึ่งจะเป็นไอคอนกราฟ หน่วยวัดเป็น mmHg ซึ่งเราสามารถวัดผลได้ Real Time เลยด้วยนะ โดยการวางนิ้วชี้และกลางขนาบข้างตัวเรือน ก็จะวัดผลได้เลยค่ะ นอกจากนี้ยังสามารถ link กับตัวแอพ แสดงกราฟหัวใจได้ด้วยค่ะ
ต่อมาเป็นหน้าวัด "Heart Rate" บอกถึงอัตราการเต้นของหัวใจ หน่วยเป็น BPM ซึ่งเป็นการวัดผลแบบ Real Time เช่นเดียวกันค่ะ
หน้าถัดมา จะเป็นหน้าวัด "การเบิร์นแคลลอรี่" โดยแสดงผลเป็นหน่วย KCal ว่าวันนี้เราเผาผลาญพลังงานไปกี่กิโลแคลลอรี่แล้ว
หน้าต่อมาคือ "การแจ้งเตือนข้อความ" จะเป็นหน้าต่างแสดง notification เมื่อเรามี message เข้ามา สะดวกมากเวลาวิ่ง หรือออกกำลังกายอยู่
กดปุ่มอีกครั้งจะเป็นหน้า "Serial Number" แสดงเลข Serial Number ไว้ใช้ลงทะเบียนตอน log in และบอกถึง version ของซอฟแวร์ค่ะ
วิธีการใช้งาน>>>
เริ่มแรกให้เปิด แอพ Me Care จากนั้นกด jumb หรือใครต้องการลงทะเบียน ก็กรอกข้อมูล username/password ได้ค่ะ
จากนั้นกด "Click to connect" จะมีหน้าต่างขึ้นว่า ต้องเปิด bluetooth ให้เรากด confirm แล้วเชื่อมต่อ blutooth ค่ะ ถ้ากด confirm แล้วหาสัญญาณนาฬิกาไม่เจอ ให้กดปุ่ม Refresh บนหน้าแอพ แล้วรอสักครู่ จะมีชื่อสัญญาณนาฬิกาขึ้นมา ให้กดที่สัญญาณนั้น ก็ถือว่าการเชื่อมต่อสำเร็จแล้วค่ะ จะบอกว่า เชื่อมต่อง่ายมากเลยนะ แม้ว่าจะไม่ค่อยชำนาญเกี่ยวกับการใช้สัญญาณ bluetooth ก็ใช้ได้ง่าย ไม่เหมือนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ตัวอื่นที่ต้องไปค้นหาอุปกรณ์จากหน้าสัญญาณ bluetooth ก่อน
เมื่อเชื่อมต่อแล้ว หน้า
"Dashboard" ของเราจะเปลี่ยนไปเล็กน้อย จะมีตาราง
ECG detection เพิ่มเติมขึ้นมา...พื้นที่บริเวณนี้ คือ หน้าต่างสำหรับวัดกราฟหัวใจค่ะ
เมื่อเราต้องการวัดค่ากราฟหัวใจ (ECG detection) สามารถทำได้โดยกดที่ตารางสีเหลือง จากนั้นหน้าต่างจะเปลี่ยนไปหน้าสำหรับวัดค่า จะมีวิธีการแนะนำขึ้นมาเป็นภาษาอังกฤษ แปลคร่าวๆได้ว่า ให้เรานำนิ้วชี้และกลางวางขนาบข้างตัวเรือนนาฬิกา โดยให้วางชิดกับแผ่นเหล็กด้านข้าง จากนั้นกดปุ่ม "Start test"...ให้เราค้างนิ้วในท่านี้ไว้ก่อน จน % ด้านซ้ายบนขึ้น 100% จะแสดงผลลัพธ์ของกราฟขึ้นมาบนหน้าจอค่ะ สังเกตนิดนึงว่า ทางด้านขวาบน จะมีค่าอื่นๆแสดงด้วย ได้แก่ BP - Blood Pressure (ค่าความดันเลือด), HR - Heart Rate (อัตราการเต้นของหัวใจ) และ HRV (ความผันแปรของหัวใจ) แม้ว่ามุมขวาจะแสดงผลลัพธ์แล้ว แต่ก็ควรค้างมือไว้ จนกว่า % จะเท่ากับ 100% นะคะ
**หมายเหตุ** แม้ไม่ได้เปิด bluetooth เชื่อมแอพ ก็สามารถวัดค่าอัตราการเต้นของหัวใจ และความดันโลหิตได้ แต่ค่าจะไม่เก็บข้อมูลในแอพค่ะ
ปล. ถ้าจะวัดแค่ความดันโลหิต ไม่ได้ดูกราฟหัวใจ ก็สามารถวัดจากตัวเรือนนาฬิกาได้เลย ไม่ต้องใช้นิ้วขนาบข้างนาฬิกาค่ะ...
เมื่อได้กราฟการวัดแล้ว หน้าต่างจะเปลี่ยนหน้าไปหน้าแสดงผลลัพธ์ ซึ่งเค้าจะวิเคราะห์ให้เราด้วยว่า หัวใจเราปกติรึป่าว
ถ้าต้องการกลับมาหน้า Dashboard ให้กด ลูกศรย้อนกลับที่มุมบนซ้าย ก็จะกลับมาหน้า Dashboard ค่ะ ในช่อง Steps เมื่อกดเข้าไป จะแสดงหน้าต่างประมวลผลของ Steps (ก้าวเดิน), Distance (ระยะทาง) และ Calorie (พลังงานที่เผาพลาญ) แบ่งตามช่วงเวลาต่างๆ และสามารถเลือนดูข้อมูลวันต่างๆย้อนหลังได้ด้วยค่ะ
ต่อมา เมื่อเรากดเข้ามาในโหมด Sleep จะมีหน้าต่างขึ้นมาบอกถึงประสิทธิภาพในการนอนของเรา โดยแสดงผลตั้งแต่ว่า เราเริ่มนอนหลับกี่โมง (Fall sleep time), เรานอนหลับลึก (Deep sleep) กี่ชม. และนอนหลับแบบไม่ลึก (Light sleep) กี่ชม., นอนทั้งคืนกี่ชม. (Sleep duration) ยิ่งไปกว่านั้น ยังสามารถบอกได้ด้วยว่า เรามีตื่นกลางดึกไหม ตื่นกี่ครั้งใน 1 คืน (Wake times) และตื่นเวลาไหน (Awake time)
ในหน้า
HR เมื่อกดเข้ามา จะแสดงผลอัตราการเต้นของหัวใจต่อวัน โดยแบ่งเป็นช่วงเวลา และแสดงผลเป็นกราฟ เพื่อให้ดูผลได้ง่ายขึ้นค่ะ
ในหน้า
BP เมื่อกดเข้ามาดู จะแสดงผลของความดันโลหิตเป็นกราฟ โดยแสดงเป็นกราฟแนวตั้งของค่าความดันต่ำ ถึงความดันสูงสุดที่วัดได้ โดยจะสามารถเก็บค่าความดันโลหิตที่วัดไว้ตามช่วงเวลาในแต่ละวันได้ด้วย แต่ต้องต่อ bluetooth นะ ถ้าไม่ต่อ bluetooth จะไม่ได้เก็บสถิติในแอพ แต่เราสามารถดูผลผ่านตัวนาฬิกาข้อมูลได้เลยค่ะ
เลื่อนมาที่แถบเมนูบาร์ด้านล่าง icon อันต่อไปเป็นรูปรองเท้าวิ่ง เขียนว่า "Running" ในโหมดนี้เราจะสามารถวัดระยะทางการวิ่ง, ช่วงเวลาการวิ่งเก็บไว้เป็นสถิติได้ โดยที่ระยะทางที่วิ่งจะขึ้นเป็นรูปกราฟของระยะทางที่วิ่งไปด้วยค่ะ นอกจากนี้ยังแสดงค่า ระยะทาง, HR, เวลา, speed, Pace และ Calorie ด้วย
เมนูบาร์ด้านล่างถัดมาเป็นรูปฟันเฟือง เขียนว่า "Settings" ในหน้าต่างนี้ จะเกี่ยวข้องกับการตั้งค่า และปรับค่าต่างๆมากมายเลยค่ะ
User Info - บอกรายละเอียดของผู้ใช้ ซึ่งในหน้านี้เราสามารถตั้งค่า อายุ (Age), เพศ (Sex), ความสูง (Height), น้ำหนัก (Weight), ความดันเลือด (BP) และสีผิว (Skin Color) ได้ด้วย
Connected - แจ้งสถานะการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ กรณี bluetooth เชื่อมต่อกับอุปกรณ์แล้ว จะมีชื่ออุปกรณ์ขึ้นมาด้านหลังคำว่า Connected ให้เราคลิกเข้าไป จะไปสู่หน้า "My device" จะกล่าวต่ออีกครั้งภายหลังค่ะ
Sport target - ตั้งเป้าหมายในการออกกำลังกายเป็นค่าจำนวนก้าว (steps) ต่อวัน
Sleep target - ตั้งเป้าหมายในการนอนกี่ชม. ต่อวัน
Electric quantity (ปริมาณแบตที่ใช้) - บอกถึง % แบตเตอรี่ที่เหลืออยู่
Language (ภาษา) - สามาถเลือกเปลี่ยนภาษาในหน้านี้ได้ เลือกได้ 2 ภาษา คือ จีนและอังกฤษ
Use Help (ช่วยเหลือ) - เมื่อกดเข้าไปจะมี Explanation of the problem (อธิบายถึงปัญหาที่อาจพบ) และ Backstage operation (การแก้ไขที่ได้ดำเนินการไปแล้ว)
Improved feedback (แจ้งฟีตแบก เพื่อพัฒนาระบบให้ดีขึ้น) - เมื่อกดเข้าไป จะเป็นหน้าอีเมลล์ ให้แจ้งปัญหา หรือ ผลลัพธ์แก่ผู้พัฒนาระบบ
About us (เกี่ยวกับเรา) - หน้านี้จะบอกถึง เวอร์ชั่นของตัวแอพ Me Care ว่าตอนนี้เป็นเวอร์ชั่นอะไรแล้ว
Login Out (ลงชื่อออก)
ในหน้าต่าง My device จะบอกถึงสถานะต่างๆของอุปกรณ์ มีให้ตั้งค่าได้หลายอย่างเลยค่ะ...สามารถเข้ามาในหน้านี้ได้ก็ต่อเมื่อนาฬิกาเชื่อมต่อกับแอพแล้วค่ะ กดที่ Connected ก็จะมาที่หน้า My device ค่ะ
Notifications - เปิด/ปิด สถานะการแจ้งเตือนของแอพ MeCare
Sedentary remind - การแจ้งเตือนเมื่อถึงเวลาที่กำหนด คือเราสามารถเปิดการทำงานในโหมดนี้ เพื่อให้ตัวนาฬิกาแจ้งเตือนทุกๆ 15 นาที / ช่วงเวลาที่กำหนดได้ (Interval) แล้วจะให้มันเตือนซ้ำ (Repeat) ในวันไหนบ้างได้ด้วย โดยสามารถเลือกช่วงเวลาในการเตือนได้ เช่น เตือนตั้งแต่ 8.00 - 12.00 และ 13.30 - 15.30 เป็นต้น
Alarm clock - นาฬิกาปลุก สามารถใช้เป็นนาฬิกาปลุกได้ โดยเลือกเซ็ตเวลาได้มากสุดถึง 5 เวลาค่ะ
Real-time HR - สามารถตั้งค่าให้นาฬิกาการวัดอัตราการเต้นของหัวใจทุกๆกี่นาทีได้ด้วย สามารถเลือกได้ตั้งแต่ Real time (0 นาที) - 60 นาทีค่ะ
Find device - ฟังก์ชั่นในการหานาฬิกาว่าอยู่ที่ไหน คือเมื่อเปิดฟังก์ชั่นการทำงานในโหมดนี้ แล้วกด Start ตัวแอพจะเริ่มทำการหาอุปกรณ์ โดยที่ตัวนาฬิกาจะสั่นตลอดเวลา เพื่อให้เราหานาฬิกาเจอค่ะ ประโยชน์ของโหมดนี้ก็คือบางทีเราจำไม่ได้ว่าเราเอานาฬิการัดข้อมือวางไว้ที่ไหน อาจจะอยู่ในกระเป๋า เวลามันสั่น ทำให้เราหามันเจอได้ง่ายขึ้นค่ะ
Heart rate alarm - ฟังก์ชั่นนี้คือ การแจ้งเตือนเมื่ออัตราการเต้นผิดปกติ เข้าสู่โหมดอันตราย เราสามารถเปิดฟังก์ชั่นแจ้งเตือนไว้ได้ค่ะ โดยกำหนดค่าว่า อัตราการเต้นของหัวใจเท่าไร ถึงเรียกว่าอันตราย เช่น 150 ครั้ง/นาที เมื่ออัตราการเต้นของหัวใจถึงจุดนี้ มันจะสั่นเตือนค่ะ ฟังก์ชั่นนี้ดีมากๆ คือเหมาะกับผู้ที่เป็นโรคหัวใจ และความดันสูง เพราะเราไม่มีทางรู้ได้เองเลยว่า เมื่อไรหัวใจเราเริ่มเต้นผิดปกติแล้ว
Wirst brightness - ปรับค่าความสว่างของหน้าจอนาฬิกา
Wearing position - ตั้งค่าการใส่ว่าอยู่ มือขวา (Right Hand) หรือ มือซ้าย (Left Hand)
Skin color - ปรับค่าสีผิว
Screen intensity - ค่าความละเอียดของหน้าจอว่าจะให้แสดงค่าละเอียดขนาดไหน มีให้เลือก Low, Middle, High ซึ่งค่าความละเอียดน้อย จะช่วยประหยัดแบตด้วยค่ะ
Undisturbed - ตั้งค่าว่าไม่ให้นาฬิการบกวนเราช่วงเวลาไหนบ้าง เช่น เวลานอน ไม่อยากให้นาฬิกาสั่นเวลามีข้อความ/สายเข้า ก็สามารถตั้งค่าช่วงเวลาได้ค่ะ
Reset - รีเชตการตั้งค่าทั้งหมด
Upgrade - การอัพเกรดเวอร์ชั่นของอุปกรณ์
Disconnect - ยกเลิกการเชื่อมต่อแอพ MeCare กับสายรัดข้อมือ
ข้อห้าม และข้อควรระวัง
1. ไม่แนะนำให้ใส่ว่ายน้ำ
2. กรุณาชาร์จแบตครั้งแรกอย่างน้อย 2 ชม. อย่าใช้จนแบตหมดก่อน เพื่อเป็นการรักษาคุณภาพ battery
ความรู้สึกขณะใช้: มี่รู้สึกว่านาฬิกา XFIT PRO เหมาะกับคุณพ่อที่มีความดันโลหิตสูงมากๆเลย เพราะปกติตัวท่านจะไม่ทราบเลยว่าความดันสูงอยู่รึป่าว แม้ว่าที่บ้านจะมีเครื่องวัดความดันโลหิต แต่มันวัดแบบทันที (Real Time) ไม่ได้ การมีนาฬิกาวัดความดันได้แบบนี้ ถือว่าเจ๋งมากๆเลยค่ะ แต่ความรู้สึกที่มี่รู้สึกไม่ค่อยสะดวกในการใช้งาน คือต้องพกมือถือตลอดเวลาขณะวิ่ง แต่เข้าใจเพราะต้องอาศัยสัญญาณ bluetooth จากการวิ่งของมี่ที่ไม่ได้พกมือถือ ทำให้ทราบว่า นาฬิกาไม่สามารถวัดผลผ่านแอพได้ แต่สามารถแสดงผลผ่านตัวเรือนนาฬิกาได้ค่ะ
XFIT PRO รีวิวนี้ มี่พยายามเขียนอย่างละเอียดมาก เพราะรู้สึกว่าแม้มีคู่มือภาษาไทย แต่มันไม่ได้แปลฟังก์ชั่นการทำงานทั้งหมด มี่ก็หวังว่ารีวิวอันนี้ของมี่จะช่วยให้คนที่ไม่เข้าใจภาษาอังกฤษ / ภาษาจีนใช้งานตัว Application ME CARE ได้ดียิ่งขึ้นนะคะ เพราะถ้าเราใช้งานได้ทุกฟังก์ชั่น มันจะคุ้มค่ามากเลย เพราะมันไม่ได้ใช้นับก้าวเดินอย่างเดียว แต่มันสามารถวัดอัตราการเต้นของหัวใจ วัดความดัน และวาดกราฟการเต้นของหัวใจได้ด้วย รวมถึงการตั้งค่าเตือนเราในเรื่องต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น การเตือนเมื่ออัตราการเต้นของหัวใจผิดปกติ หรือจะใช้เป็นนาฬิกาปลุก หรือวัดค่าประสิทธิภาพการนอนของเราก็ได้ ฟังก์ชั่นมากมายเหลือเกินค่ะ เรียกได้ว่าคุ้มค่ามากๆกับการเป็นนาฬิกาสายรัดข้อมือรูปแบบ Sport ค่ะ
ข้อมูลเพิ่มเติม:
https://www.xfitwatch.com/product/pro/
โปรโมชั่นเปิดตัว
จากปกติ 5,500บาท เหลือเพียง 3,450 บาท
จัดส่งฟรีทั่วประเทศ มีบริการเก็บเงินปลายทางฟรี
Online >> Line@ : @xfit
Sellplus Call center : 02-0263581
FB Fanpage : XFIT WATCH
Sponsored by
++++ ขอบคุณที่เข้ามาชมกันค่ะ ++++
ติดตามผลงานของมี่ได้ทาง...
Comments
Post a Comment