พาชมโรงงานผลิตสบู่ ครีม เครื่องสำอาง สกินแคร์ OEM ครบวงจร WISE PLUS GROW

Image
เชื่อว่าทุกคนมีความฝัน บางคนอยากจะเป็นเจ้าของธุรกิจส่วนตัว บางคนอยากจะมีตำแหน่งการงานที่มั่นคง ไม่ว่าฝันจะเป็นอย่างไร แต่ถ้าไม่ได้ลงมือทำก็คงไร้ความหมาย มี่เองก็มีความฝันอยากจะมีธุรกิจเป็นของตัวเองเหมือนกันค่ะ ส่วนตัวเป็นคนที่ชอบลองสกินแคร์ใหม่ๆมากเลย จากที่ได้ลองใช้มาหลายผลิตภัณฑ์ ก็ทำให้เราอยากจะลองทำผลิตภัณฑ์ดูแลผิวขึ้นมาเองบ้าง วันนี้มี่เลยจะมาแนะนำโรงงานผลิตสบู่ ครีม เครื่องสำอาง และสกินแคร์ OEM ที่เราสามารถสร้างแบรนด์ตัวเองได้ ให้บริการครบวงจร ตั้งแต่ช่วยคิดสูตรครีม ช่วยออกแบบผลิตภัณฑ์ และยื่นขอคำรับรองจาก อย . และขั้นตอนต่างๆอีกมากมาย ครบจบแค่ที่เดียว สะดวกสบาย รวดเร็ว และได้คุณภาพ ถ้าอยากรู้ว่าเป็นที่ไหน ไปชมกันเลยค่ะ WISE PLUS GROW บริษัทไวส์พลัสโกร จำกัด     บริษัท WISE PLUS GROW โรงงานผลิตสินค้า OEM (Original Equipment Manufacturer)  และ (ODM Original Design Manufacturer) ที่ให้บริการครบครัน ทั้งผลิตสบู่ ครีม เครื่องสำอาง สกินแคร์ แบรนด์ตัวเอง แบบ one stop service ที่มาที่เดียว ก็สามารถผลิตสินค้าแบรนด์ตัวเองได้แล้วค่ะ   ...

Review: เครื่องฟอกอากาศ Philips AC0820 กำจัดมลพิษ PM2.5

      ตอนนี้ปัญหาเรื่องมลพิษทางอากาศเป็นอะไรที่น่าหนักใจมากๆ เพราะฝุ่นควัน PM2.5 ได้ระบาดทั่วประเทศไทย ไม่ว่าจะจังหวัดไหนๆล้วนได้รับผลกระทบกันทั้งสิ้นตัวช่วยหนึ่งที่จะช่วยให้เราปลอดภัยจาก PM 2.5 ได้นั้น ก็คือ “เครื่องฟอกอากาศ PM2.5” วันนี้มี่เลยจะมารีวิวเครื่องฟอกอากาศที่มีประสิทธิภาพสูงให้ชมกัน หลังจากที่ได้ทดลองใช้มาเป็นระยะเวลา 7 วัน จะเป็นอย่างไรนั้นมาชมกันเลยค่ะ

เครื่องฟอกอากาศ Philips Air Purifier รุ่น AC0820


     วันนี้ผลิตภัณฑ์ที่มี่จะมารีวิว ก็คือ เครื่องฟอกอากาศของ Philips Air Purifier รุ่น AC0820 ค่ะ จุดเด่นของเค้าเลย คือ มีเทคโนโลยี VitaShield IPS ที่ผ่านการทดสอบจากสถาบัน IUTA ประเทศเยอรมนีว่า สามารถกรองฝุ่นละอองอนุภาคเล็กถึง 0.003 ไมครอน หรือเทียบเท่ากับ 3 นาโนเมตร และกรองได้เล็กกว่าขนาดฝุ่น PM2.5 ถึง 800 เท่า ได้สูงถึง 99.5% เมื่อใช้ในห้องขนาด 16-49 ตร.ม. ยิ่งไปกว่านั้น ยังสามารถกำจัดไวรัส H1N1 ได้ถึง 99.9% และกำจัดแบคทีเรียได้สูงถึง 99% ดังนั้น จึงมั่นใจได้เลยว่า หมดกังวลเรื่องมลพิษภายในห้องได้เลย จุดเด่นอีกอย่างคือ เครื่องฟอกอากาศฟิลิปส์เค้ามีขนาดเล็ก กะทัดรัด น้ำหนักเบา ทำให้เคลื่อนย้ายสะดวก แต่คุณภาพไม่ได้เล็กไปด้วยนะ เพราะเค้ามี Particle CADR สูงถึง 190 ลบ./ซม. เลยค่ะ ค่า CARD นี้หมายถึง อัตราการส่งผ่านอากาศบริสุทธิ์ เป็นค่าที่บอกประสิทธิภาพการฟอกอากาศที่แท้จริง ค่านี้ได้มาจากการนำไปทดสอบในห้องปฏิบัติการกับ ควันบุหรี่ (smoke), ฝุ่น (dust) และ เกสรดอกไม้ (pollen) มีหน่วยเป็น ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง (m3/hr) หากเครื่องฟอกอากาศมีค่า CADR สูง แสดงว่าเครื่องฟอกอากาศนั้นจะมีประสิทธิภาพในการฟอกอากาศสูงค่ะ นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยี AeraSense เป็นเซนเซอร์ตรวจจับฝุ่นละอองขนาดเล็ก เมื่อปริมาณฝุ่นในห้องเพิ่มขึ้น เครื่องก็จะปรับระดับใบพัดลมให้แรงขึ้นอัตโนมัติค่ะ


Packaging ตัวนี้ มาในรูปของกล่องกระดาษแข็ง โทนสีน้ำเงิน สีสัญลักษณ์ Philips เลยค่ะ





เมื่อเปิดกล่องออกมา จะเจอเครื่องฟอกอากาศทรงกระบอกโทนสีขาว-ดำ ดีไซน์ดูทันสมัยดีค่ะ
ขนาดเครื่อง (ยาว x กว้าง x สูง) = 250 x 250 x 367
น้ำหนักเครื่อง 2.4 กก. (นน.รวมกล่อง 3 กก.)




ในกล่องจะมีสายชาร์ต adaptor, คู่มือการใช้งาน และใบรับประกันนานถึง 2 ปี มาให้ด้วยค่ะ



  เครื่องฟอกอากาศฟิลิปส์เป็นทรงกระบอกสีขาว มีรูรอบด้านที่ครึ่งล่างของตัวเครื่อง ด้านบนมีปุ่ม control และสัญญาณไฟ แสดงคุณภาพของอากาศในห้อง





   มาดูฟังก์ชันการทำงานของเครื่องฟอกอากาศ Philips Air Purifier รุ่น AC0820 กันดีกว่าค่ะ เครื่องฟอกอากาศฟิลิปส์เครื่องนี้ ทำงานได้อย่างง่ายดาย โดยมีปุ่ม control ปุ่มเดียว อยู่ด้านบนฝากรองอากาศ ซึ่งปุ่ม control นี้ จะแสดงรายละเอียด ดังนี้
1.      “ไฟแสดงคุณภาพอากาศ” - ไฟนี้จะอยู่ที่วงกลมรอบๆปุ่ม control ไฟแต่ละสี บอกถึงคุณภาพอากาศภายในห้องค่ะ
2.     “การปลี่ยนโหมด/ปุ่มรีเซ็ตแผ่นกรอง” - กดปุ่ม control ตรงกลาง 1 ครั้ง จะเป็นการเปลี่ยนโหมดการทำงาน (โหมดการทำงาน มี 3 โหมด คือ โหมดอัตโนมัติ, โหมดเทอร์โบ และโหมดสลีป) ถ้าต้องการรีเซ็ทแผ่นกรอง ให้กดปุ่ม control ค้างไว้ 10 วินาทีค่ะ
3.     “การแจ้งเตือนการเปลี่ยนแผ่นกรอง” จะมีรูปแผ่นกรองสีแดงขึ้นที่วงนอกของปุ่ม control เพื่อให้ทราบถึงเวลาเปลี่ยนแผ่นกรองอากาศแล้วนะ

บนปุ่ม control มีจุดที่น่าสนใจอยู่ นั่นคือ “ไฟแสดงคุณภาพอากาศ” ซึ่งมี 4 สีด้วยกัน คือ ฟ้า, ม่วง, ชมพู และแดง บอกถึงคุณภาพของอากาศในห้องที่เราอยู่ค่ะ ซึ่งคุณภาพของอากาศในห้องเรานั้น จะวัดจากปริมาณ PM2.5 ค่ะ
ถ้า <=35  สีของไฟจะขึ้นสีฟ้า แสดงว่าระดับคุณภาพอากาศ ดี
ถ้า 36-75 สีของไฟจะขึ้นสีม่วง แสดงว่าระดับคุณภาพอากาศ ปานกลาง
ถ้า 76-115 สีของไฟจะขึ้นสีชมพู แสดงว่าระดับคุณภาพอากาศ ไม่ดี
ถ้า >115 สีของไฟจะขึ้นสีแดง แสดงว่าระดับคุณภาพอากาศ ไม่ดีเป็นอย่างมาก



ก่อนเริ่มใช้งานเครื่องฟอกอากาศ เราจะต้องแกะพลาสติกของแผ่นกรองออกจากเครื่องก่อนค่ะในตัวเรื่องจะมีแผ่นกรองในตัว (FY0194) อยู่… 
มาดูวิธีการติดตั้งแผ่นกรองกันค่ะ
1. กลับด้านเครื่องฟอกอากาศ ให้วางหัวทิ่มลง จากนั้นหมุนฐานทวนเข็มนาฬิกาเพื่อเปิดฝาที่ฐานเครื่องฟอกอากาศ



2. ดึงแผ่นกรองออกจากตัวเครื่อง (แผ่นกรองจะหุ้มพลาสติกมาค่ะ)


3. แกะห่อพลาสติกออกจากแผ่นกรอง แล้วใส่กลับเข้าไปในเครื่อง






4. ประกอบฐานกลับเข้าไป แล้วหมุนฝาตามเข็มนาฬิกาเพื่อปิดฐานให้แน่น


   มาดูวิธีการใช้งานเครื่องฟอกอากาศ Philips AC820 กันค่ะ
1. ต่อสาย Adaptor เข้ากับเครื่อง โดยเริ่มจากเสียบสายไฟที่เครื่องฟอกอากาศก่อน



2. เสียบปลั๊กไฟเข้ากับไฟบ้าน


3. เปิดปุ่ม เปิด/ปิด เครื่อง (วงกลม หมายถึง ปิดเครื่อง, ขีดตรง หมายถึง เปิดเครื่อง)


4. สัญญาณไฟที่แผง control จะกระพริบเปลี่ยนสี จนหยุดที่ไฟแสดงคุณภาพของอากาศ เช่น ถ้าอากาศมีมลพิษ จะเป็นสีแดง (สภาพอากาศ ดี -> แย่ คือ ฟ้า -> น้ำเงิน-ม่วงเข้ม -> ชมพูม่วง -> แดง) และโหมดการทำงานเริ่มต้นจะอยู่ในโหมดอัตโนมัติ


5. กดปุ่ม “เปลี่ยนโหมด” เมื่อต้องการเปลี่ยนโหมดการทำงาน


6. ถ้าต้องการปิดเครื่อง ก็กดปุ่ม เปิด/ปิด อีกครั้ง เครื่องก็จะหยุดทำงานค่ะ (สวิตกดไปที่ ขีดตรง)
หมายเหตุ: เพื่อประสิทธิภาพการทำงานอย่างสูงสุด ควรปิดประตู และหน้าต่างขณะที่เครื่องทำงาน และศึกษาขนาดห้องให้พอดีกับความสามารถในการฟอกอากาศของตัวเครื่องค่ะ

*ข้อควรระวังอื่นๆ* เราสามารถศึกษาได้จากคู่มือการใช้งานที่เค้าแถมมาให้นะคะ มีทั้งภาษา TH และ EN เลยค่ะ

มี่ได้ทดลองใช้เครื่องฟอกอากาศฟิลิปส์ในห้องนอนตอนกลางคืนค่ะ




ความรู้สึกขณะใช้: มี่ใช้เครื่องฟอกอากาศในห้องนอน เพราะปกติ เป็นคนที่เป็นภูมิแพ้ตอนเช้า คือบางทีตื่นนอนมา จะคัดจมูก และไอ เพราะฝุ่นในห้องเยอะ โดยที่สายตาเรามองไม่เห็น ตอนแรกที่เริ่มใช้งาน ไฟแสดงคุณภาพอากาศขึ้นเป็นสีชมพูค่ะ แต่พอเปิดไป ไม่ถึง 5 นาที ไฟก็เปลี่ยนเป็นสีฟ้า คือเครื่องฟอกอากาศได้ไวมาก ทำงานได้เร็ว และเสียงไม่ดัง แม้จะเปิดโหมดอัตโนมัติค่ะ ส่วนโหมดเทอร์โบ เสียงจะดังขึ้นมาหน่อยๆ แต่ก็ไม่ดังจนเกินไป คือพอได้ยินว่าเครื่องทำงานหนักขึ้น แรงขึ้น แต่ก็ไม่ถึงกับรบกวนการทำงานของเราค่ะ

ในคืนที่ได้ใช้เครื่องฟอกอากาศ Philips Air Purifier รุ่น AC0820 คืนแรก พบว่า ตื่นมาตอนเช้าหายใจปกติเลยค่ะ คือดีมากกกก ไม่มีอาการไอ หรือ คัดจมูกเลย แถมตอนนอนก็ไม่ได้ยินเสียงรบกวนด้วย เพราะโหมด sleep เค้าคือเงียบของจริง เสียงเค้าเบาเงียบเหมือนไม่ได้เปิดเครื่องเลย ไม่รบกวนการนอนของเราอย่างแน่นอนค่ะ นอนหลับเต็มอิ่มตลอดคืน ตื่นมาลมหายใจโล่ง สะดวก หายใจไม่ติดขัดเลยค่ะ ^^

เมื่อเราใช้งานเครื่องฟอกอากาศไประยะหนึ่ง ก็ควรจะทำความสะอาดแผ่นกรองอากาศด้วย ความถี่ในการทำความสะอาดแผ่นกรอง คือ ทุก 4 สัปดาห์ หรือ 1 เดือนค่ะวิธีการทำความสะอาดแผ่นกรองก็ง่ายมาก คือ แกะแผ่นกรองอากาศออกจากตัวเครื่อง (ต้องปิดเครื่องก่อนทุกครั้งนะคะ) แล้วใช้เครื่องดูดฝุ่นดูดทำความสะอาดแผ่นกรอง ส่วนตัวพื้นผิวเครื่อง ก็สามารถเช็ดทำความสะอาดได้ด้วยผ้านุ่มค่ะ


เมื่อมีสัญลักษณ์ “การแจ้งเตือนการเปลี่ยนแผ่นกรอง” ขึ้นที่แผง control เราต้องเปลี่ยนแผ่นกรอง โดยการแกะออกจากเครื่อง และรีเซตแผ่นกรอง โดยการกดปุ่ม “เปลี่ยนโหมด” ค้างไว้ 3 วินาที เพื่อรีเซ็ตตัวนับอายุการใช้งานของแผ่นกรองค่ะ ถ้าแผ่นกรองยังไม่ทำการรีเซ็ต สามารถรีเซ็ตได้โดย การปิดเครื่อง แล้วเปิดเครื่องใหม่ โดยรอให้เครื่องทำงาน 5 วินาที แล้วค่อยกดปุ่ม “เปลี่ยนโหมด” ค้างไว้ 10 วินาทีเพื่อรีเซ็ตแผ่นกรองค่ะ (กรณีมักจะเกิดขึ้นเมื่อเปลี่ยนแผ่นกรองก่อนไฟแจ้งเตือนเปลี่ยนแผ่นกรองจะขึ้นค่ะ)

วิธีการทำความสะอาดเซนเซอร์ตรวจวัดคุณภาพอากาศ
1. ปิดเครื่องฟอกอากาศ และถอดปลั๊กจากช่องเสียบปลั๊กไฟ


2. ทำความสะอาดทางลมเข้า และทางออกของเซนเซอร์ตรวจวัดคุณภาพอากาศด้วยแปรงขนนุ่ม


3. เปิดฝาครอบเซนเซอร์ตรวจวัดคุณภาพอากาศ



4.  ทำความสะอาดเซนเซอร์ตรวจวัดคุณภาพอากาศ และขจัดฝุ่นในทางลมเข้า และทางออกด้วยก้านสำลีหมาดๆ


5. เช็ดชิ้นส่วนต่างๆด้วยก้านสำลีแห้ง


6. ปิดฝาครอบเซนเซอร์ตรวจวัดคุณภาพอากาศ


สรุป: เครื่องฟอกอากาศ Philips AC820 เป็นเครื่องฟอกอากาศขนาดเล็ก ขนาดกระทัดรัด สามารถฟอกกรองฝุ่นละออง 2.5 และมลพิษ อนุภาคเล็กถึง 0.003 ไมครอน ได้ถึง 99.5% และมีประสิทธิภาพในการฟอกอากาศ เป็นค่า CADR = 190 ลบ./ซม. เหมาะกับห้องที่มีขนาด 16-49 ตร.ม. สามารถกำจัดมลพิษ PM2.5 ได้ รวมไปถึง เกสรดอกไม้, ฝุ่นผง, ขนสัตว์ และอื่นๆ ยิ่งไปกว่านั้น ยังสามารถกำจัดไวรัส H1N1 ได้ 99.9% และกำจัดแบคทีเรียได้ถึง 99% มีไฟแสดงคุณภาพอากาศ และสามารถปรับโหมดการทำงานได้มากถึง 3 โหมด โดยมีโหมดสลีปที่เสียงเงียบมาก เหมาะกับการใช้เวลานอน และพักผ่อนได้ดีค่ะ


ราคา 5,990 บาท

สามารถสั่งซื้อทางออนไลน์ได้ที่: Philips Official Store ใน Lazada, Shopee, Central Online, Powerbuy.co.th, Robinson Online, Homepro และห้างสรรพสินค้าชั้นนำ
ข้อมูลเพิ่มเติม:


++++ ขอบคุณที่เข้ามาชมกันค่ะ ++++

#เครื่องฟอกอากาศPM2.5
#เครื่องฟอกอากาศขนาดเล็ก
#เครื่องฟอกอากาศฟิลิปส์
#ฝุ่นละออง 2.5
#PM2.5

ติดตามผลงานของมี่ได้ทาง...

IG: miieiie
Youtube: miieiie1

Comments

Popular posts from this blog

Review: VISTRA IMU-PRO C Acerola Cherry 2000 Plus

รีวิว Roomba Combo i5 หุ่นยนต์ดูดฝุ่นและถูพื้น “แค่สลับถังก็ถูพื้นได้ทันที”

Review: เซรั่มหน้าเด็ก More Than Serum เซรั่มสเต็มเซลล์ข้าวหอมมะลิแดง